เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อ.เมืองจันทร์, จ.ศรีสะเกษ 33120, Thailand
รับรองโดย อ.mujjalin //mailto:gorn001@gmail.com

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ที่สุดของพระรูปหล่อแห่งยุค

รูปหล่อพิมพ์นิยมใหญ่ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร

       ถ้าพูดถึงเบญจภาคีรูปหล่อที่เป็นที่สุดแห่งยุคนี้ และจะไปถึงอนาคตนั้นคงไม่พ้นรูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลานเป็นแน่ เพราะองค์ท่านมีปาฏิหาริย์มากมาย ท่านเคยเรียนวิชากับสมเด้จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) พระเถราจารย์แห่งวัดระฆังโฆสิตารามที่สร้างพระสมเด็จรูปขนมเปียกปูนอันเลื่องลือ จนราคาพระแพงมากแม้กระนั้นก็ยังมีคนใฝ่ฝันหา ในส่วนหลวงพ่อเงินนั้นก็เช่นกัน เป็นรูปหล่อโลหะที่ทุกคนต่างถามถึง นอกจากจะมีพระพุทธคุณมหาอุด จนเป็นที่กล่าวขานแล้ว เรื่องคงกระพันชาตรี เตือนเภทภัย กำบังกาย ป้องกันเสนียดจัญไร คุณไสยมนต์ดำนั้น ก็เป็นที่ประจักษ์เป็นอย่างมาก โดยรวมแล้วพระของท่านเป็นพระที่พระพุทธคุณสูงส่งครอบจักรวาลเลยทีเดียว หากท่านได้มีไว้บูชาแล้ว ความเจริญรุ่งเรืองย่อมบังเกิดมีแก่ท่านอย่างมิต้องสงสัย ในตอนนี้จะกล่าวถึงการนำองค์พระของท่านเบูชาเพื่อให้เกิดผลทางอิทธิฤทธิ์อย่างเต็มที่ถึงที่สุด ในพระเครื่องหลายๆอย่าง หลายๆประเภท มีทั้งรูปแบบที่เป็นพระปฏิมากรรมนูนสูง นูนต่ำ แบบครึ่งองค์ แบบเต็มองค์ หรือเต็มตัว ซึ่งเราอาจสงสัยว่าแบบไหนจะมีพระพุทธคุณเป็นอย่างไร วันนี้เรามาทำความเข้าใจร่วมกันและศึกษาไปพร้อมกันเลยครับ ... ในการเนรมิตรูปนามขึ้นมาสักอย่างเช่น หุ่นพยนต์ มนุษย์หุ่นฟาง ควายธนู หรือ แม้กระทั่งองค์พระรูปเหมือนต่างๆเป็นตัวตนขึ้นมา ที่เรียกว่า องค์ญาณ นั้นจะมีอาการ 32 ประการในร่างกายทั้งหมด คือ ตั้งแต่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เอ็น กระดูก ฯ ทำให้องค์ญาณนั้นเคลื่อนไหวได้เสมือนมีชีวิตในโลกทิพย์ หรือโลกวิญญาณ สามารถมีฤทธิ์มีอำนาจปกป้องอันตรายเราได้จากภูติผีวิญญาณรา้ย อสูรกาย ซึ่งเป็นต้นเหตุของภัยอันตรายต่างๆแม้จากวิบากกรรม เล็กกรรมน้อย ที่สามารถบรรเทาได้ หรือจากคุณไสยฯ ซึ่งก็ต้องใช้ผี วิญญาณร้ายไปทำงานให้  เพราะฉะนั้นพระที่สร้างจากพระผู้ทรงอภิญญาจึงมีอิทธิฤทธิ์มากมายในการปกปักษ์รักษาคุ้มครองป้องกันภัยภยันอันตรายต่างๆได้และไม่เสื่อมถอยได้โดยง่ายแม้จะตกลงไปที่ต่ำ อโคจรก็ตาม ถ้าเรายังเคารพศรัทธาท่านอยู่ เพราะญาณที่ทรงอิทธิคุณจากกำลังฌานที่ 4 จนถึง ฌานอันดับสูงๆนั้นสามารถอธิษฐานให้เกิดฤทธิ์ได้อย่างไม่กำหนดเวลาได้ เพราะเป็นจิตที่ทรงอยู่เหนือกาลเหนือเวลา
  • เมื่อได้พระมาแล้วควรที่จะหาดอกไม้ธูปเทียน ขัน 5 มาบูชา( ดอกไม่ 5 คู่ เทียน 5 คู่ ธูป 5 คู่) ดอกไม้ควรเป็นสีขาว แล้วนำไปบูชาที่องค์รูปหล่อของท่าน จากนั้นจุดเทียน 1 คู่ ธูป 9 ดอก บอกกล่าว ว่าพระคาถา " ขอขมาโทษ (ตั้ง นะโม 3 จบ) ***รัตตนัตตเย สัมมาสัมพุทธเธ ปัจเจกพุทเธ อริยสัจจธัมเม  อริยสังเฆ มหาเถเร มหาเถรี อุปัชฌาเย อาจะริเย ประมาเทนะ  ทวารัตตเยนะกะตัง สัพพังอะปะราถัง ขะมะถะเม ภันเต *** (ต่อด้วย) อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดช เดชะ เดชัง จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้ด้วยเทอญ***อะกะ อะธิ อะธิ อะกะ ธิอะ กะอะ วันทามิ อาจาริยัญจะ หิรัญญะ นามะกัง ถิรัง สิทธิ ทันตัง มหาเตชัง อิทธิ มันตัง วะสาทะรัง ( สิทธิ พุทธัง กิจจัง มะมะ ผู้คนไหลมา นะชาลี ติ สิทธิ ธัมมัง จิตตัง มะมะ ข้าวของไหลมา นะชาลี ติ สิทธิ สังฆัง จิตตัง มะมะ เงินทองไหลมา นะชาลี ติ ฉิมพลี จะ มหาลาภัง ภะวันตุ เม ) (ในวงเล็บสามารถสวดเพิ่มเติมต่อท้ายได้เลย)
    • เมื่อมีโอกาสวันสำคัญ เป็นวันพฤหัสบดี วันครู ท่านอาจหาพานบายศรีปากชาม 9 ชั้น หรือ 12 ชั้น มาไหว้อีกครั้ง
  • ควรมีสัจจะในการบนขอจากท่าน เมื่อได้สิ่งที่ประสงค์แล้ว ท่านไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากเรา แต่เป็นสัจจะที่เราพึ่งมี

คราบเบ้าความเก่าที่ยังอยู่ตามสภาพเดิมๆซึ่งหาองค์สวยสมบูรณ์อย่างนี้ได้ยากแล้ว เ้ส้นสายลายพริ้วจีวรคมชัด มีร่องรอยของพิมพ์ที่ขีดขั้นจีวรริ้วด้านซ้ายขององค์พระชัด ในปากของท่านเห็นฟันสองซี่อย่างบางๆ คราบความเก่าของโลหะที่ฝังแน่นกับองค์พระ บ่งบอกถึงความเก่าได้อายุอย่างงดงาม

ขนาดพอเหมาะที่จะนำขึ้นคอเป็นอย่างยิ่งสำหรับชายชาตรี

อีกมุมกับความเก่าที่งดงาม

เมื่อตั้งกับพื้นเรียบจะสังเกตุว่าหน้าของหลวงพ่อจะก้มและลำตัวพระจะเอียงข้างเล็กน้อยพองาม อันเกิดจากฐานพระที่หล่อจากเบ้าโบราณนั่นเอง

อีกด้านกับด้านข้าง

รูปร่างสันฐานได้สัดส่วนซึ่งเป็นฝีมือชั้นครูอย่างแน่นอน

ด้านล่างที่แสดงให้เห็นกระแสโลหะที่หล่อแบบโบราณ มีโลหะหลายอย่างผสมกันที่ไม่เข้ากันดีตามลักษณะเบ้าหลอมแบบโบราณคราบเขียวๆคือคราบสนิมเขียวที่เป็นสนิมของทองเหลืองและสีแดงเป็นสีของทองแดงโดยเนื้อหาสารโลหะนี่จะมีทองคำผสมอยู่เป็นจำนวนมากจนเปล่งประกายแวววาวของทองคำออกมา

โลหะแก่ทองคำ องค์พระจะหนักซึ่งแสดงถึงเนื้อมวลสารในองค์พระมีความหนาแน่นมาก ฝีมือการแกะพิมพ์เป็นฝีมือช่างชั้นครูมีลายจีวรพริ้วไหวเป็นธรรมชาติ

เปิดราคาไม่แพง ครับ ไม่ประจักษแจ้งพุทธคุณ ไม่ต้องการ ไม่ต้องเอาไปครับ สะสมพระมา 20-30 ปี หาชมพระแท้ๆพระพุทธคุณสูงไม่เจอเลยนะครับ

วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

พระปิดตาอันเป็นที่มาของพระมหาอุด



       พระมหาอุดนั้นเป็นสิ่งที่เป็นภูมิปัญญาของโบราณจารย์ที่ต้องการสร้างสรรค์พระเครื่อง หรือพระพิมพ์เพื่อเป็นมงคลให้แก่ลูกศิษย์ลูกหา หรือเคารพนับถือไปบูชาเพื่อเกิดผลทางอิทธิคุณในการป้องกันเนื้อหนังให้พ้นจากเภทภัยที่เกิดจากปืนไฟ ซึ่งมีมาแต่โบราณในการสู้รบตบมือกับข้าศึกผู้ร้ายโจรภัยต่างๆ คาถากำกับบูชา
1.โดยทั่วไปก็อาราธนาหมือนพระเครื่องแบบอื่นๆคือ บทพุทธังอาราธนาณังฯ แล้วตามด้วยบทอิทธิฤทธิ์(มีในบทความบทก่อนๆครับ)
2.เนื่องด้วยเป็นพระมหาอุดจึงควรเพิ่มบท นี้ด้วยคือ  "นะกรึงนะ"  3 จบพร้องทั้งกลั้นลมหายใจในการภาวนาด้วย
การที่เอาพระควัมปวดี เป็นองค์แทนในพระมหาอุดก็เพราะว่าเพื่ออุดเงินอุดทองไม่ให้รั่วไหลไปไหน จึงนำบทคาถาภาวนาการผนึกตู้เก็บเงินมาใช้เพื่อผลทางโภคทรัพย์ ส่วนมหาอุดหยุดลูกปืนนั้นโบราณใช้อมเข้าไปในปากเพื่อเป็นเคล็ดวิธีการ คือปิดทวารไม่ให้อ้าปาก เพื่อผลทางพุทธาคมที่แสดงไว้ในองค์พระเช่นเดียวกัน
3.เวลานำพระอมไปในปากให้กั้นลมหายใจประหนึ่งว่าอุดลมปากกระบอกปืนนั้น ภาวนาว่า "อุดธังอัดโธ นะ โม พุท ธา ยะ"   แล้วเข้ารณรงค์สงครามต่อไปจะทำให้หยุดลูกปืนคงเนื้อคงหนังได่อย่างอัศจรรย์ แต่ในปัจจุบันนี้คงจะเอาอมเข้าปากนั้นก็คงยากแล้ว

วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การบูชาพระเนื้อว่าน

พระร่วงนั่งเนื้อว่าน กรุเมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ
       การบูชาพระว่านนั้นน้อยคนนักที่จะศึกษาวิธีการบูชา เนื้อด้วยอาจจะเป็นเพราะไม่มีคาถากำกับหรือวิธีบูชามาให้เราไ้ด้ศึกษา เมื่อเราได้พระเครื่องมาแล้ว ก็ดีใจและน่าภูมิใจว่าได้ของแท้ผ่านพิธีการปลุกเสกแล้ว และจะให้ดียิ่งขึ้นไปต้องรู้วืธีบูชาพระเนื้อว่านด้วย เพราะอะไรนั้นเรามาดูกันครับ
       เนื่องด้วยพระเนื้อว่านมีการส่วนผสมของว่านนานาชนิด ซึ่งเป็นว่านอิทธิฤทธิ์เป็นส่วนใหญ่ และว่านอิทธิฤทธิืและเนื้อว่านนี้เองที่ทำให้พระพุทธคุณของพระว่านนั้นมีลักษณะที่โดดเด่นมากกว่าพระทั่วไปที่ไม่มี แต่เราจะดึงเอาพลังของว่านนั้นมาใช้ได้อย่างไร งั้นมาศึกษากันเลยครับ ปกติว่านต่างๆนั้นมีอง๕ืญาณ ที่รักษาว่านนั้นๆ อยู่ หรือเทวดารักษาคุ้มครองเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ว่านนั้นๆ เพราะว่านอิทธิฤทธิ์ในตัวนั้นเป็นสมบัติของโลก การที่จะเอาว่านมาทำเป็นพระได้ โบราณจารย์ก็มีเคล็ดวิธีการ เช่น ต้องไปเอาในวันอังคาร จึงจะเป็นว่านที่แสดงอิทธิฤทธิ์(เช่น ว่านทางคงกระพัน ว่านทางกันผีคุณไสยฯ) ถ้าจะเอาว่านให้มีฤทธิ์ทางยารักษาโรค ให้เอาวันพุธ การเอาก็ต้องไปจุดธูปบอกกล่าว(ปกติใช้ ธูป 9 ดอก) และบอกเองเออเอง และต้องไม่เข้าไปทำให้เงาของเราทับทาบต้นว่านนั้นด้วย
       ส่วนคาถา ที่จะบูชาพระว่านนั้นก็เหมือนทั่วๆไป คือ  ใช้ดอกไม้ 2 คู่ เทียน 2 คู่ ธุป 9 ดอก(เพิ่มจากดอกไม้ ขัน 5 นะครับ)
1.คาถาอาราธนา คือ "พุทธัง อาราธนาณัง ธัมมังอาราธนาณัง สังฆังอาราธนาณัง พุทธังประสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม
2.ต่อด้วยคาถาอิทธิฤทธิ์ คือ " อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดช เดชะ เดชัง จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้ด้วยเทอญ"
3.จุดธูป 9 ดอก แล้วบอกว่า" ขออำนาจจากเทพยาดาที่ปกปักษ์รักษาคุ้มครองว่านที่อยู่ในองค์พระนี้จงโปรดเมตตาช่วยให้ข้าพเจ้าสำเร็จในผลด้าน........................ตามความปรารถนาด้วยเทอญ( จุดไข่ปลาให้กล่าวเพิ่มตามต้องการเช่นแคล้วคลาดปลอดภัย เป็นต้น)
        ครับสุดท้ายก็ขอให้ทุกท่านได้ครอบครองพระว่านไว้เป็นสมบัติติดตัวเพื่อป้องกันภัยกันนะครับ อันเป็นของดีตามธรรมชาติและบวกด้วยพลังพระพุทธคุณด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ติดกำลังสองเลยล่ะ โชคดีครับ

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การเสริมพลังจิตของตนเองด้วยพระเครื่อง

     
 การนำพระเครื่องไปใช้ในด้านการเสริมพลังจิตในคราวที่ตัวเองอ่อนล้าเพลียจิตใจ ทำได้จริงเหรอ ซึ่งเป็นคำถามที่ออกมาจากการที่ผู้อ่านได้เห็นบทความนี้ ถ้ายังไงเสียท่านทั้งหลายโปรดติดตามอ่านจนจบจะได้รู้ว่าวิธีการเช่นไรที่จะสามารถนำเอาพระเครื่องของเราที่มีอยู่นี้มาเสริมพลังจิตเราได้ ก่อนอื่นเราต้องทราบว่าพระเครืองของเรานั้นมีพลังพระพุทธคุณ และพลังสูงไม่ใช่ของเทียมและเลียนแบบตามท้องตลาดที่เอามาเร่หลอกขายนะ ถ้าอย่างไรแล้วควรจะเรียนรู้การตรวจสอบความเก่าเทียมตามบทความที่ผ่านๆมาด้วยครับ เพื่อเป็นหลักประกันให้เรา
       เมื่อเราได้พระเครื่องที่แน่ใจแล้ว หรือไม่แน่ใจก็ไม่เป็นไร วิธีการต่อไปนี้จะทำให้รู้ได้ด้วยว่ามีพลังจิตที่แฝงอยู่ในวัตถุมงคลหรือไม่

  1. ให้เราหาดอกไม้ 10 ดอก(มักใช้ดอกไม้ที่มีสีขาว) และเทียน 10 เล่ม เรียกว่า ขัน 5 หมายถึง เทียน 5 คู่ ดอกไม้ 5 คู่ เป็นตัวแทนตัวเราเหมือนในกรณีที่เราท่านไปเรียนพระกรรมฐาน ก็จะประกอบด้วยขัน 5 หรือ ไปขอขมาผู้ใหญ่ ก็ใช้ธูปเทียนแพ ซึ่งก็จะประกอบด้วยเทียน 5 คู่ ธูป 5 คู่ และข้าวตอกดอกไม้ 5 คู่ เช่นเดียวกัน
  2. นำมาใช้ไว้ในพาน แล้วเอาพระเครื่องวางลงบนพานดอกไม้เดียวกันนั้นเพื่อบูชา
  3. กล่าวคำขอขมาพระรัตนตรัยซึ่งเราอาจจะได้ล่วงเกินมาก่อนแล้วก็ได้อย่างไม่รู้ตัว โดยกล่าวว่า"กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 ที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินแก่พระรัตนตรัย คุณครูอุปัชฌาย์อาจารย์ คุณบิดามารดาและผู้มีพระคุณทั้งหลาย ขอท่านเหล่านั้นโปรดจงยกโทษอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ"
  4. กล่าวคำอาราธนาคุณพระต่อด้วยคำว่า" พุทธัง อาราธนาณัง ธัมมัง อาราธนาณัง สังฆัง อาราธนาณัง พุทธังประสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม 
  5. และกล่าวคำคาถาอิทธิฤทธิ์เพื่อเชิญคุ้มครอง "อิทธิ ฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชเดชะ เดชัง จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้ด้วยเทอญ"
  6. จากนั้นวางพานบนหิ้งพระหรือโต็ะหมู่บูชาพระรัตนตรัย  นั่งสมาธิทำจิตสงบได้เลยต่อจากนั้นก็จะได้สัมผัสพลังทันที เมื่อเรากำหนดสติที่ใจเราจะล่วงรู้ถึงความเย็นที่หลั่งไหลมากระทบใจและมีความอบอุ่นเกิดกำลังใจมากขึ้นอย่างประหลาด นั่นคือพลังพระพุทธคุณที่เราสามารถพึ่งได้จากพระเครื่องของเราครับ
วันนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ จะได้เข้าที่สมาธิเพื่อรับพลังพระพุทธคุณ ไว้โอกาสหน้ามาพบกันใหม่ครับกับเรื่องราวเล่าสู่กันฟังสำหรับชาวพุทธที่ควรรู้ในภูมิปัญญาของโบราณจารย์กัน สวัสดี

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การตรวจพลังพระพุทธคุณ


การตรวจพลังพระพุทธคุณด้วยการเจริญพระกรรมฐาน
    การตรวจพลังพระพุืทธคุณนั้นเป็นเรื่องราวของนักปฏิบัติด้านพลังจิตและการนำพลังจิตนั้นไปใช้งาน ส่วนในเราท่านทั้งหลายที่ยังมิได้เคยเข้าถึงการปฏิบัติธรรมกรรมฐานอาจจะยังไม่เข้าใจและไม่ล่วงรู้ได้ วันนี้เราจะมาทำการศึกษาดูว่าการตรวจพลังพระพุทธคุณนั้นเป็นไปได้จริงเหรอ แล้ว พระเครื่องที่ผ่านการปลุกเสกแล้วนั้นมีพลังแห่งพระพุทธานุภาพได้อย่างไร
การตรวจเบื้องต้น
1. ใ้ห้ทำใจให้เป็นกลาง ปล่อยจิตให้ว่างปราศจากความคิดใดๆอันจะเป็นการเอียงผลการตรวจไปข้างใดข้างหนึง
2. เดินลมหายใจให้สม่ำเสมอ มีสติสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อม
3. กำหนดจิตให้เห็นองค์พระ อธิษฐานขอขมาต่อพระรัตนตรัย ว่าการตรวจนี้ไม่ใช่ว่าหลบหลู่หากเป็นไปเพื่อรู้แจ้งในพระพุทธคุณองค์พระนี้
4. อธิษฐานในขณะที่จิตว่างเป็นกลางขอให้พลังพระพุทธคุณจงปรากฏแก่ข้าพเจ้าใ้้ห้รู้ได้
5. ถ้าพลังในพระเครื่องมีจะปรากฏแรงหน่วงที่กึ่งกลางหน้าผากมากน้อยตามที่มีในพระเครื่องนั้นๆ
    อันนี้เป็นเบื้องต้นนะครับ ส่วนบางวัตุมงคลอาจจะมีพลังที่ซ่อนเร้นอยู่โดยไม่สามารถสัมผัสได้แบบเบื้องต้นนี้  ซึ่งก็เป็นว่าเรามาเล่าสู่กันฟัง เพราะมิฉะนั้นแล้วคงไม่ครบเครื่อง เรื่องพระเครื่องกัน เพราะเราท่านแขวนบูชาพระ ก็เพื่อพะพุทธคุณในการคุ้มครองเรา หากเราต้องเสียเงินเพื่อเช่าบูชาพระแล้วต้องอยากได้พระเครื่องที่เป็นทั้งขวัญกำลังใจและคุ้มครองเราได้ในทุกสถานการณ์  ในการตรวจพลังนั้นสามารถนำมาใช้งานได้จริงหากท่านต้องการทราบว่าเป็นจริงไหม คงต้องลองทำการฝึกฝนกันแล้วล่ะ

วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ความเก่าใหม่ต่อพลังพุทธคณ

รูปหล่อพิมพ์นิยมยุคแรก หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร ( 5 M฿)

      ในพลังพระพุทธคุณนั้น กาลเวลานั้นเป็นครื่องกำหนด หรือไม่ คงเป็นปัญหาที่หลายๆคนต้องการใคร่ที่จะรู้ วันนี้มาพิจารณาร่วมกันว่ากาลเวลาจะกำหนดพลังพระพุทธคุณที่อยู่ในตัวพระเครื่องหรือไม่ อย่างไร  การที่พลังจิตของครูบาอาจารย์ที่ท่านได้อธิษฐานจิตลงในวัตถุมงคลนัั้น ย่อมกำหนดรูป-นามให้เป็นไปสอดคล้องกับวัตุที่ท่านได้อธิษฐานลงไป แล้วผูกไว้ด้วยพลังจิตอันแก่กล้า หากรูป-นามนั้นคงอยู่ย่อมจะมีพลังจิตนั้นผูกพันอยู่ด้วย จึงเป็นเหตุผลที่การสร้างพระเนื้อผงพระพุทธคุณ โดยการเขียนลบผง พลังจิตนั้นก็จะอยู่ในทุึกอณูของมวลผงที่เขียนลบแล้วท่องบ่นสาธยายมนต์กำกับตามไป เพราะฉะนั้นพระเนื้อผงพระพุทธคุณจึงมีพลังแม้จะหักบิ่นไป ส่วนในเนื้อโลหะก็จะมีการเขียนเลขยันต์ลงบนแผ่นทองอธิษฐานกำกับลงไปแล้วจึงไปหลอมเหลวใส่ลงไปในเบ้าหลอม
   เวลาผ่านไปนานเท่าใด พุทธคุณก็จะยังคงอยู่หากธาตุทีอธิษฐานเป็นวัตถุมงคลนั้นยังอยู่โดย รูป-นามที่กำกับไว้ตั้งแต่แรก หากมีการลบผง หรืออธิษฐานแผ่นทองหลอมเหลว พลังนั้นย่อมจะยังคงอยู่ตราบเท่านาน เท่าที่เรายังเชื่อมด้วยศรัทธา

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เชิญพลังที่ซ่อนเร้นในองค์พระ

รูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน พิมพ์นิยมใหญ่ 
                เคยมีตำรานักเล่นพลังจิต หรือผู้ที่ทำการตรวจพลังพระพุทธคุณในพระเครื่องกล่าวว่า พระรูปหล่อหลวงพ่อเงินนั้นไม่ทันองค์หลวงพ่อสร้าง ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นเพราะว่าการตรวจพลังพระเครื่องนั้น อาจจะไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด เพราะมีพลังพุทธคุณที่เร้นลับอยู่ หาก ไม่ได้ทำบางสิ่งขึ้นแล้วพลังนั้นจะซ่อนเร้นอยู่ อย่างเช่นในองค์ครูนี้ ถ้าดูตามเนื้อหา มวลสารความเก่าของโลหะแล้วจะเห็นว่ามีจุดมีตำหนิคราบเบ้าคราบไขกระแสโลหะถูกต้องเป็นพระแท้ที่ดูง่ายในความเป็นของโบราณร่วม 100 ปี แต่การตรวจพลังพุทธคุณในครั้งแรกโดยผู้คลุกคลีในเรื่องพลังจิตนั้น ทราบว่ามีความแตกต่างกับเหรียญจอบพอควร แสดงออกมาว่าเหรียญจอบจะมีพลังที่มากกว่า จึงอาจทำให้นักตรวจสอบพลังวัตถุมงคลหลงทิศทางก็เป็นได้ จึงให้พลาดวัตถุมงคลอันล้ำค่า
                วิธีการที่จะทำให้ทราบว่ามีพลังเร้นลับมากน้อยเพียงใด  อย่างแรก คงต้องฝึกฝนพลังจิตจนถึงขนาดเป็น วสีใช้งานได้ ถึงระดับ ฌาน(ฌาน 4) เป็นอย่างน้อย  อย่าลืมบูชาพระรัตนตรัยเป็นลำดับแรก แล้วขอขมาองค์ท่าน จากนั้น นำขัน 5 (ดอกไม้ขาว 5 คู่ เทียนเล็ก 5 คู่) ใส่ลงในพานนำพระขึ้นบูชาโดยใส่ลงไปในพานดอกไม้นั้น กล่าวบูชาพระ ขอขมาท่าน จากนั้นอาราธนาอิทธิฤิทธิ์ดังนี้
         *** อิทธิ ฤทธิ พุทธนิมิตตัง ขอเดช เดชะ เดชัง จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะ อุ นี้ด้วยเทอญ(เทอด)***
จากนั้นนำองค์พระมาจับอารธนาพลังที่อยู่ในองค์ท่านให้บังเกิด หากมีพลังที่มากล้นแล้วพลังหนักหน่วงจะบังเกิดให้สัมผัสรู้ที่กึ่งกลางหน้าผาก อันเป็นจุดให้ทราบว่าพลังนั้นมีอยู่จริง จะมากน้อยเพียงใด ก็จะปรากฎให้ทราบได้ตรามจุดดังกล่าว และอีกจุดก็คือใจที่สัมผัสได้
                ก็ขอให้โชคดีในการพบกับพลังพระพุทธคุณแท้นะครับ สำหรับวันนี้เล่าขานแต่เพียงเท่านี้ วันพรุ่งจะเล่าถึงองค์ประกอบความเก่าใหม่ในเชิงวิทยาศาสตร์
***ปล.การที่รูปหล่อต้องกระทำเช่นนี้เพื่อชมพลังขององค์ท่าน เป็นเพราะเป็นองค์รูปปั้นลอยตัว จึงมีอาการ 32 ประการที่ครบ และขัน 5 และ/หรือ ขันธ์ 5 เราก็หมายถึง รูปและนามเรานั้นเอง

วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

พระรอดพิมพ์ใหญ่กรุวัดมหาวัน เนื้อเขียวหินครก

พระรอดพิมพ์ใหญ่เนื่อเขียวหินครก วัดมหาวัน ราคา 20,000,000 บาท

พระรอดมหาวัน พิมพ์ใหญ่ จ.ลำพูน เนื้อเขียวหินครก ครับ ความเห็นส่วนตัวนะครับ เนื้อเขียวหินครกนี้น่าจะมีส่วนผสมของหินรัตนชาติที่เป็นมรกตเพราะผลึกมรกตจะออกสีเขียวแต่ถ้าบดละเอียดส่วนย่อยจะเป็นสีขาว ซึ่งก็หมายความว่ามีส่วนผสมของมรกตที่มากกว่า เหตุผลนั้นเป็นเพราะเนื้อเขียวหินครกจะมีความแข็งแกร่งมากจนขนาดว่าขูดกระจกเป็นรอยได้ (มรกต มีค่าความแข็งที่ 7.8-8) ส่วนแร่แคลไซต์ที่ว่ากันว่าผสมกันในองค์พระจะมีค่าความแข็งเพียง 3 ซึ่งน้อกว่ามาก น้อยกว่าแร่ควอทซ์ซะอีก ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นอ้างอิงจากหลายๆตำราที่ว่ามีแร่แคลไซต์ ซึ่งแร่แคลไซต์จะพบใกล้ๆหรือพบเป็นเพื่อนกันกันแร่ชนิดอื่นๆคือ แร่ควอทซ์ แร่ฟลูออไรด์ แม้แต่แร่รัตนชาติที่เป็นมรกต นั้นเอง ปรากฎพบเห็นได้ในแถบเทือกเขาเป็นแนวยาวของเส้นแร่ตั้งแต่ จ.เชียงราย ถึง สตูลเลยทีเดัยว  ติดตามพระเครื่องแนะนำบูชาได้ต่อที่ http://www.gejisiam.com/shop/alongkorn

วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

เหรียญจอบใหญ่หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน



เหรียญหล่อโบราณหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน พิมพ์จอบใหญ่

ซึ่งการสังเกตความเก่าของโลหะนั้นก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าพิมพ์ทรง และอาจจะเป็นสิ่งสำคัญด้วยเพราะการสร้างเหรียญหรือพระของหลวงพ่อนั้นต่างกรรม ต่างวาระ ตามแต่วัดใดต้องการบำรุงเสนาสนะ หลวงพ่อก็จะไปช่วยแล้ววัดนั้นๆ ก็จัดสร้าางขึ้นให้หลวงพ่อได้ปลุกเสก เพราะฉะนั้นบล็อกพิมพ์จึงหลากหลายแน่นอนแต่ก็จะยังทรงลักษณะเดิมไว้ เนื่องด้วยแม่พิมพ์อาจจำเป็นต้องใช้ทุนทรัพย์สูง โดยการก่อสร้างนั้นต้องใช้ปัจจัยในการก่อสร้างมากอยู่แล้ว เหรียญหรือวัตถุมงงคลย่อมมีไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ลักษณะอย่างไรเราจะทราบได้ว่าเหรียญใดน่าจะเป็นเหรียญแท้ที่ทันหลวงพ่อท่านได้สร้างไว้ สิ่งสำคัญนั้นก็คือสภาพความเก่าของเหรีนญหรือรูปหล่อของหลวงพ่อ แต่สภาพความเก่าของโลหะอย่างเดียวนั้นก็คงไม่พอ อาจจะเป็นสิ่งแวดล้อมที่เป็นองค์ประกอบความเก่าใหม่เช่น คราบไข คราบเบ้า สนิมโลหะ แล้วอย่างไรเป็นของที่ทำขึ้นมาใหม่ เพราะฉะนั้นเราต้องศึกษาว่าสภาพที่เกิดโดยตามธรรมชาตินั้นเป็นอย่างไร ของธรรมชาติย่อมไม่เหมือนของที่ทำตกแต่งด้วยความจงใจ
สิ่งที่สังเกตได้อีกต่อมาในรูปหล่อเหรียญหล่อ คือคราบเบ้า ซึ่งอาจติดอยู่ตามซอกที่ใดที่หนึ่งที่ล้างไม่ออกหรือพระที่ไม่ได้ผ่านการใช้มาก่อนย่อมจะมีจุดที่สังเกตได้ง่าย  เหรียญนี้เป็นเหรียญที่ดูง่ายจริง หากต้องการนำไปบูชา โทรติดต่อได้ครับ 

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

พระเก่าเป็นอย่างไร



พระเก่านั้นย่อมจะแสดงถึงลักษณะสิ่งที่เป็นธรรมชาติของความเก่า เช่น คราบไคลกรุ ที่เกิดจากความชื้นและความร้อนที่ผ่านระยะเวลานานที่อาจจะถูกบรรจุอยู่ในโถ ในดินก็เกิดปฏิกิริยาระหว่างธาตุที่อยู่ในเนื้อองค์พระ และอากาศออกซิเจนและคราบดินซึ่งอาจจะฝั่งแน่นในองค์พระที่ของปลอมนั้นทำออกมาไม่เหมือนธรรมชาติที่สร้างสรร มองไม่เนียนตาไม่เป็นธรรมชาติ และสิ่งที่เป็นจุดสังเกตคือ ความเก่าย่อมระเบิดออกมาจากด้านในมาผสมกับเนื้อด้านนอก เช่นเนื้อองค์พระอาจจะเป็นลักษณะที่เรียกว่าผิวมะกรูดเพราะเกิดจากความร้อนทำให้เนื้อพระที่ผสมจากวัสดุหลายอย่าง ก็เกิดปฏิกิริยาต่างกัน ทำให้เกิดการพองยุบตัวที่ไม่สม่ำเสมอเมื่อพระที่มีอายุหลายร้อยปี ปรากฏการณ์เช่นนี้ย่อมเกิดชึ้นจนไม่เป็นระเบียบหากเราใช้กล้องส่องดู หากจะให้แยกแยะออกได้อย่างง่ายแล้ว จำต้องส่องโดยใช้กล้องขนาด x10 (ที่ใช้ขนาด x10 เพราะว่าเป็นระยะที่สามารถมองเห็นองค์ประกอบเนื้อหาองค์พระที่สามารถจำแนกได้เป็นอย่างดี) เพื่อให้เห็นอณูของเนื้อองค์พระ องค์พระที่มันก็เป็นประเด็นหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้าม หากพระที่มีอายุมากประกอบกับวัสดุที่ประกอบขึ้นมีส่วนผสมของว่าน/น้ำมันแล้ว เวลาผ่านไปน้ำที่อยู่ในองค์พระจะระเหยออกมาซึ่งธรรมชาติของน้ำมันจะอยู่บนน้ำเนืองด้วยความถ่วงจำเพาะที่น้อยกว่าทำให้มีไข/น้ำมันเคลือบองค์พระให้เราได้เห็น หากพินิจอย่างละเอียดแล้วจะเห็นธรรมชาติของมันอย่างดี และเราจะเห็นคุณค่าขององค์พระที่ประเมินค่ามิได้ (หากสนใจพระผงสุพรรณองค์นี้ต้องการชมองค์จริงก็สามารถติดต่อได้ตามเมล์นี้ครับหรือชมพระอื่นเพิ่มเติมเพื่อบูชา คลิกเวป)

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

เบี้ยแก้สายวัดกลางบางแก้ว


                เบี้ยแก้ เป็นเครื่องรางที่แสดงให้เห็นถึงญาณวิถีของผู้ที่บรรจงสรรสร้างขึ้นมา อีกทั้งพระพุทธคุณที่บรรจุอยู่ก็เต็มเปี่ยม มีครบทุกทาง สามารถกันล้างอาถรรพ์คุณไสยฯคุณผีคุณการกระทำทั้งปวงได้ อย่างที่พระเครื่องแบบพระพิมพ์บางสำนักไม่อาจจะทำขึ้นมาได้ เบี้ยแก้ที่นำเสนอมาในครั้งนี้เป็นสายทาง วัดกลางบางแก้ว โดยเมื่อเราพิจารณาความเก่าของรักแดงที่ทาเคลือบไว้เป็นสำคัญ ก็จะเห็นการแตกระแหงอย่างไม่ได้เป็นระเบียบนักเนื่องจากไม่ได้เกิดจากความตั้งใจให้แห้งลงอย่างรวดเร็วในเวลาที่จำกัด และความเป็นธรรมชาติความเก่าของขดหูทองแดงที่ร้อยห้อย ทั้งสองข้างของเบี้ย ซึ่งเบี้ยแก้นั้นทำมาจากหอยบรรจุภายในด้วยปรอทๆถักหุ้มด้วยเชือกเคลือบด้วยรัก เมื่อเวลาผ่านไปความเก่าของรักก็ปกคลุมทั่วเบี้ยอาจแตกเป็นลายงาในกรณีที่รักนั้นเก่าจนแห้งแตก แต่การแตกลายงาก็ไม่ใช่จะเป็นไปในลักษณะที่เสมอกันหมดทั่วทั้งอันแต่จะเป็นไปในลักษณะที่เป็นไปทั่วไม่สม่ำเสมอกันเพราะการแห้งโดยธรรมชาติย่อมมีการระเหยของน้ำนั้นผ่านระยะเวลายาวนานไม่ได้เป็นไปโดยช่วงระยะสั้นๆ

วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555

รูปหล่อโบราณหลวงพ่อเดิม วัดหนองหลวง

รูปหล่อโบราณหลวงพ่อเดิม พุทธฺสโร ออกวัดหนองหลวง ปี ๒๔๗๐

รูปหล่อหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ แต่รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกๆก่อนออกพิมพ์ปั๊มที่นิยมกัน โดยออกที่วัดหนองหลวง ที่หลวงพ่อท่านได้ไปอุปถัมถ์ ซึ่งเป็นการหล่อใส่เบ้าหลอมโลหะจริงๆ ซึ่งใครที่ชื่นชอบการหล่อแบบโบราณนี้ ไม่ควรที่จะพลาดการสะสม จุดสังเกตที่สำคัญก็คงไม่พ้นพิมพ์ทรง แต่ด้วยการหล่อแบบโบราณนั้นจะเป็นการขึ้นหุ่นขี้ผึ้งทีละองค์โดยมีแบบไว้ แล้วพอกด้วยดินหรือวัสดุต่างๆเพื่อให้หุ่นผึ้งนั้นอยู่จากนั้นก็เผาด้วยไฟไล่ขี้ผึ้งออกเหลือช่องสำหรับหยอดเทโลหะที่เผาจนหลอมเป็นของเหลว จึงอาจจะมีส่วนเหนือเกินออกมาได้ แต่จุดสำคัญกว่าพิมพ์ต้องเป็นโลหะที่ทำเหมือนได้ยาก ซึ่งเราต้องศึกษาว่าโลหะในยุคเก่านั้นควรจะเก่าอย่างไร การย้อมด้วยเคมีจะไม่มีความเป็นธรรมชาติของสีและคราบจะกระด้างไม่นิ่มนวลเป็นธรรมชาติ อีกหนึ่งอย่างที่จะเสริมในเรื่องพิมพ์ทรงคือรอยตะไบหยาบที่ปรากฎในพิมพ์สมัยโบราณ คือสิ่งที่นักสะสมต้องสังเกตจะได้ไม่พลาดของดี ..ครับ

วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พระพิมพ์จันทร์ลอย หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง

พระพิมพ์จันทร์ลอยหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่


หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง  พิมพ์จันทร์ลอย สร้างน้อย พุทธคุณสูง ด้านหน้าทาทองบรอนซ์ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ด้านวิปัสสนาที่ผู้คนเคารพศรัทธา และในวัตถุมงคลของท่านเป็นที่แสวงหากันกว้างขวาง ของแท้คงต้องเคยผ่านตามองดูด้วยประสบการณ์ ดูความเก่าของเนื้อผงพรายกุมารให้เป็น ด้านพระพุทธคุณนั้นแรงจนเป็นที่ประจักษ์และนิยมอย่างกว้างขวางจนถึงส่วนกลางและค่านิยมไม่ตกจนเป็นพระนิยมหลักๆของเมืองไทยเลยทีเดยว

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

พระคงดำ จ.ลำพูน
เป็นพระที่นิยมอย่างมากในตำนาน จนโบราณจารย์ได้นำแบบมาเลียนเพื่อสร้างพระกริ่งคลองตะเคียนอันลือลั่นมาแล้ว พุทธานุภาพนั้นคงกระพันชาตรีอย่างแน่นอนจนได้ชื่อว่า พระคง เป็นพระเครื่องที่มีอายุการสร้างไม่ต่ำกว่า  1200 ปี พระคงเนื้อดำนั้นค่อนข้างจะหายาก เพราะเป็นพระที่คาดว่ามีจำนวนการสร้างน้อย เพราะจะสร้างจากผงใบลานนำมาเผาไฟแล้วบดกดพิมพ์ออกมา เนื้อดำสนิท อาจจะมีสีน้ำตาลเข้มบ้างในบางองค์ องค์นี้มีคราบไคลกรุและดินกรุเดิมๆ มิได้ล้างออกแต่อย่างใด ทำให้ดูง่ายสบายตาเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งส่องดูยิ่งหลงไหลในความงามอย่างเป็นธรรมชาติ

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ความแตกต่างของพระพุทธคุณและคุณไสย

คุณไสยศาสตร์นั้นเป็นเดรัจฉานวิชา ซึ่งหมายถึงวิชาที่ขวาง เป็นวิชาที่ขวางทางพระนิพพาน เมื่อนำมา สร้างวัตถุมงคลจะทำให้พลังที่รวมลงอยู่ในวัตถุนั้นแปลสภาพที่น่าจะเป็นคุณแก่ผู้ที่บูชา สวมใส่ กลับกลายเป็นโทษภัยต่อผู้นั้นๆ เพราะคุณไสยฯนั้นใช้อาคมที่บังคับภูตผีปีศาจมาใช้งานเพื่อป้องกันหรือเตือนภัย ซึ่งจะเกิดผลได้ดีเมื่อในคราวแรกๆแต่เมื่อเรามิได้เลี้ยงหรือเผลอเรอไปแล้วจะทำให้ผีนั้นเกิดอาการหิวโหยแล้ววกกลับมาทำอันตรายแก่เจ้าของได้เมื่ออาคมนั้นเสื่อมถอยลง เพราะโลกียฌานย่อมเสื่อมลงได้ไม่จีรังยั่งยืนเหมือนพระพุทธคุณที่เหนือโลกเหนือกาลเวลา และการใช้อาคมบังคับคุณผีเพื่อนำมาใช้งานย่อมเป็นการเบียดเบียนไม่เกิดประโยชน์เป็นบาปเป็นกรรม
ความแตกต่างด้านการนำไปใช้ การอาราธนา
การอาราธนาคุณพระนั้นได้กล่าวเอาไว้ในบทความข้างต้นไว้แล้ว ท่านผู้อ่านพอที่จะค้นหาอ่านได้ใน เมื่อเรามีพระที่ท่รงเอาไว้ซึ่งคุณพระพุทธคุณแล้ว เราควรที่จะบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนเพื่อน้อมนำพระพุทธคุณเพื่อเป็นที่พึ่งที่ระลึกแก่จิตใจและคุ้มครองป้องกันภัยแก่เราและครอบครัว และเมื่อในเวลาวันพระเราก็ควรที่จะนำดอกไม้มาบูชากล่าวคำสรรเสริญพระรัตนตรัยที่ปรากฎอยู่ในบทสวดมนต์
ส่วนคุณผีนั้น มักจะมีคำกล่าวเชื้อเชิญที่แปลกแตกต่างออกไปในคำที่ฟังดูไม่ค่อยจะสุภาพ  มีสรรพนามที่แสดงออกถึงความเป็นตัวตนยึดมั่นถือมั่น
มวลสารในการนำมาประกอบเป็นองค์พระหรือเครื่องราง
        ในด้านพระเครื่องที่ประกอบไปด้วยพระพุทธคุณนั้นจะมีการประกอบขึ้นจากมวลสารที่เป็นมงคลเช่น ผงพุทธคุณที่ลบจากแป้งดินสอพองที่กล่าววาจาอันเป็นมงคลที่สรรเสริญพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ แล้วเขียนอัขระเลขยันต์ที่แสดงเป็นภาษาที่ให้ล่วงรู้ถึงอานุภาพก่อให้เกิดพลังจิต เกิดพลานุภาพปกป้องแก่ผู้บูชาสักการะได้
 

วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

หลักการดูพระเครื่องเพื่ออาราธนาขึ้นคอ

ในมุมมองของนักสะสมพระเครื่องนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับค่านิยมและราคา เพื่อบ่งบอกถึงฐานะของผู้บูชาสวมใส่ด้วย และพุทธคุณที่ปรากฎออกมาเป็นประจักษ์อันยาวนาน
ในฐานะที่ข้าพเจ้าได้ศึกษามาพอจะเป็นแนวทางบ้างไม่มากก็น้อย อันอาจจะเป็นประกายฉุดให้หลายๆท่านที่พึ่งเข้าสู่วงการพระเครื่องและเครื่องรางวัตถุมงคล ได้เป็นแนวทางในการเลือกหาพระเครื่อง หรือเครื่องรางสักองค์ สักชิ้นขึ้นสู่คอ เพื่อความอบอุ่นใจเป็นกำลังใจ และเพื่อพระพุทธคุณในสิ่งที่เรามองด้วยตาเนื้อไม่เห็น
เมื่อเรามองด้วยตาในหรือเมื่ออาราธนาแล้วไม่ปรากฎออกมาให้เราสัมผัสได้ก็ใช้ขัน 5 (ดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่) จัดใส่พานแล้วนำพระวางลงอาราธนาตามโพสต์แรกที่ผู้เขียนได้นำเสนอจากนั้นก็กล่าววาจาอันเป็นมงคลเชื้อเชิญพระพุทธคุณที่สถิตในองค์พระเครื่องนั้น
หากอยากทราบว่าพระองค์ที่เราจับขึ้นมาส่องดูนั้นเป็นพระแท้หรือไม่นั้นจำเป็นต้องสะสมการศึกษาจากรูปภาพและองค์จริงที่เราเชื่อถือได้ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงคือเนื้อ-วัสดุที่สร้างองค์พระนั้นขึ้น หากเป็นพระเก่าที่เป็นพระกรุแล้วย่อมเกิดสนิมและคราบไขกรุ ที่แห้งแสดงถึงการผ่านอายุมานานและอีกอย่างที่นักสะสมจำเป็นต้องพิจารณาด้วยคือกลิ่น เพราะพระใหม่ขจัดกลิ่นมวลสารออกได้ไม่หมดสนิทและเมื่อประกอบกันเข้าย่อมเข้าใกล้พระแท้เกือบ 80 %  และหากพิมพ์ทรงตรงถูกแล้วก็ใกล้ความจริงเข้าไปแต่ในเรื่องพิมพ์ทรงนั้นในมุมมองความเห็ของข้าพเจ้าเป็นเรื่องที่เมื่อทำการพิมพ์พระออกมาแล้วย่อมมีบางองค์ที่ไม่เป็นไปตามแม่พิมพ์ที่ต้องการออกมาเพราะการยุบ หดตัวของพระที่พิมพ์ออกมาครั้งแรกที่มวลสารยังเปียกแฉะอยู่ย่อมทำให้พิมพ์ทรงผิดเพี้ยนไปได้ด้วยมือของผู้พิมพ์พระเอง หากเราต้องการพระแท้แม้ไม่เข้าประกวดก็อุ่นใจได้ก็ไม่ควรมองข้ามจุดนี้ไป
คราบไคลกรุของเนื้อดิน หากเป็นเนื้อดินที่ฝังไปกับดินต้องมีคราบดินฝังติดแน่นกับเนื้อองค์พระ ไม่มากก็น้อย 
คราบไขขาว อาจเกิดขึ้นได้เมื่อพระกรุนั้นมีความชิ้นขึ้นซึ่ง ไขที่เกิดจะเป็นธรรมชาติไม่มากเกินไปเหมือนตั้งใจทำ
คราบสนิมที่เกิดในองค์พระโลหะ ตัวอย่างเช่นพระเนื้อตะกั่วปรอท ซึ่งเรียกว่าพระสนิมแดง อย่างเช่นตัวอย่างที่มานำเสนอคือ พระท่ากระดานที่ปรากฎสนิมครบทุกอย่างมีทั้งสนิมแดงที่เกิดจากตะกั่วผสมปรอทมีคราบสนิมที่เนื้อตะกั่วทำปฏิกิริยากับความชื้นเป็นคราบให้เห็นอันผ่านเวลาอันยาวนานจึงจะเกิดขึ้นได้หากเป้นคราบที่ทำขึ้นใหม่หรือเอาเนื้อตะกั่วเก่ามาปั๊มใหม่ย่อมไม่เกิดอย่างนี้ไปได้

 

คำอาราธนาพระเครื่อง

คำอาราธนาพระเครื่องที่ทรงอิทธิฤทธิ์
ตามที่ข้าพเจ้าได้ประสบพบมา เพื่อปกป้อง ป้องกันตัวจากหมู่มารร้ายที่มุ่งทำร้ายที่ได้ผลเป็นที่ประจักษ์แก่ตนเองได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ
คำอาราธนา  *** พุทธังอาราธนานัง ธังมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง พุทธังประสิทธิเม ธังมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม***
 **-- อิทธิฤทธิ พุทธนิมิตตัง ขอเดช เดชะ เดชัง จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้ด้วยเทอญ---**
ซึ่งสามารถใช้ได้กับพระเครื่องพระเกจิอาจารย์ที่ท่านทรงมหิทธานุภาพ เช่น หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
เป็นเรื่องที่น่าแปลกว่าคำอาราธนาของหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อจง คล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อเราอาราธนาแล้วก็สามารถปรากฎกำลังใจอันเป็นมหัศจรรย์ ในคราวหนึ่งข้าพเจ้าได้พระเครื่องของหลวงพ่อทั้ง 3 องค์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นโดยอัศจรรย์ เมื่อนำมาส่องวิเคราะห์ด้วยหลักนิยมของสากลว่าพิมพ์ทรงตรง เนื้อหาเก่าถูกต้องอย่างที่ไม่น่าจะหลุดรอดตาเซียนมาจนถึงมือเราได้ แต่อาจจะเป็นเพราะความปรารถนาตั้งใจที่เราศรัทธาในตัวท่าน พระเครื่องของท่านในราคาหลักหมื่นถึง หลักล้านถึงมาอยู่ในความดูแลรักษาของเราได้ อาจจะเป็นเพราะการที่เรามุ่งมั่นในการรักษาความดี รักษาศีล เจริญภาวนาเป็นเนืองนิจก็เป็นได้
เมื่อกล่าวคำอาราธนาแล้วก็อธิษฐานในสิ่งที่เป็นคุณ เป็นธรรม ทุกสิ่งที่ไม่เกินกรรมก็จะสำเร็จไปได้